ธิชาร่าเฮิร์บ มิกซ์ 8 ดูแลและคงความสมดุลของระบบเผาผลาญ หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้หุ่นพัง!

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ธิชาร่า เฮิร์บ มิกซ์ 8
อุดมไปด้วยสมุนไพรกว่า 8 ชนิด ที่มีคุณค่าและคุณประโยชน์รวมถึงมีสรรพคุณที่ปรากฎอยู่ในบัญชียาสมุนไพร มีคุณสมบัติในการเผาผลาญไขมันสะสม ไขมันส่วนเกิน และเพิ่มอัตราการเผาผลาญ

ธิชาร่าเฮิร์บ มิกซ์ 8 เหมาะกับใคร?
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก ลองมาหลายวิธีแต่น้ำหนักกลับไม่ลดลงสักที หรือลงไปสักระยะน้ำหนักกลับคงที่ไม่ลงต่อ
- ผู้ที่ต้องการดูแลรูปร่างและมีน้ำหนักตัวเกินค่ามาตรฐาน BMI และมีไขมันสะสมตามส่วนต่างๆ
ของร่างกาย
ผู้ที่ชอบทานบุฟเฟ่ต์ ปิ้งย่าง ของทอด ของมัน ของหวาน หรืออาหารที่มีไขมัน คอเลสเตอรอลสูง
ผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพ มีความกังวลเรื่องระดับหรือค่าของคอเลสเตอรอล ความดันโลหิต ไขมันในเลือด ระดับน้ำตาลในเลือด รวมถึงผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน โรคอ้วนหรือเป็นโรคเบาหวาน โรคอ้วนอยู่แล้ว
อายุมากขึ้นร่างกายเผาผลาญได้ช้าลง ระบบ Metabolism ของคนเราจะค่อยๆเสื่อมตามธรรมชาติลง 5% ทุกๆ 10 ปี และยิ่งเมื่ออายุเข้าเลข 4 ยิ่งต้องดูแลตัวเอง
เชื่อธรรมชาติ เชื่อธิชาร่าเฮิร์บ ความลับของสมุนไพรทั้ง 8 ชนิด ที่คุณต้องพิสูจน์ด้วยตัวเอง

ระบบเผาผลาญพังคืออะไร?
อธิบายง่ายๆก็คือ ร่างกายเผาผลาญอาหารที่เราทานเข้าไปได้น้อยลงหรือช้าลง เกิดเป็นสภาวะที่ร่างกายนำพลังงานที่ได้จากอาหารไปใช้ได้น้อยกว่าปกติทำให้มีพลังงานหลงเหลือ และถูกเก็บอยู่ในรูปแบบของไขมันมากขึ้น ยิ่งถ้าเราทานอาหารที่มีไขมัน แป้ง น้ำตาล คอเลสเตอรอลสูง สะสมเข้าไปมากๆ ในสภาวะที่ระบบเผาผลาญของร่างกายพัง จะยิ่งทำให้อ้วนขึ้นเรื่อยๆ ทานนิดหน่อยก็อ้วนง่าย และเสี่ยงเป็นโรคอื่นๆตามมาในที่สุด อ้วนง่าย ร่างพัง ส่องพฤติกรรมการกินที่ทำลายระบบเผาผลาญไม่รู้ตัว

แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าระบบเผาผลาญพัง?
ลองเริ่มสังเกตสัญญาณที่ร่างกายกำลังบอกเรา ดูได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็น ผมร่วง ร่างกายอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยสดชื่น เริ่มมีปัญหาเรื่องการนอน หลับ นอนไม่ค่อยหลับ ผิวแห้ง ที่สำคัญเลยคือ การที่น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นง่ายจน ผิดปกติ ทั้งๆ ที่ออกกำลังกายและควบคุมอาหารแล้วแต่น้ำหนัก ก็ไม่ลดลงเลย หรือลดลงนิดเดียว

สาเหตุหลักที่มีส่วนทำให้ระบบเผาผลาญพังมาจากอะไรได้บ้าง?
การที่ ระบบเผาผลาญ ทำงานผิดปกติไป เกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่เพียงแต่ความเครียดหรือการทำงานผิดปกติของฮอร์โมนหรือต่อมไทรอยด์เท่านั้น แต่สาเหตุส่วนใหญ่ก็มาจากพฤติกรรมการกินของเราในแต่ละวันด้วยนะคะ จะมีอะไรบ้าง ลองไปดูกันเลย
1.การอดอาหารที่ผิดวิธี มีส่วนทำให้ระบบเผาผลาญพัง
ใครๆ ก็อยากมีหุ่นในฝัน ตัวเบา เอวบางกันอยู่แล้ว ซึ่งวิธีการลดน้ำหนักที่หลายคนเลือกทำมากที่สุดเห็นจะเป็นการควบคุมอาหารหรือลามไปถึงขั้นอดอาหารเลยด้วย ซึ่งการอดอาหารแบบผิดวิธีก็เป็นสาเหตุหลักของการทำลายระบบเผาผลาญ อันเป็นต้นตอของการลดน้ำหนักไม่ได้สักทีด้วยค่ะ แม้กระทั่งการทานอาหารน้อยเกินไปก็ด้วย เพราะเมื่อร่างกายรับอาหารเข้าไปในปริมาณน้อยเกินไป ร่างกายจะเข้าใจว่าเราอยู่ในภาวะขาดแคลนอาหาร เราจะมีแคลอรี่ที่ใช้ในการเผาผลาญแคลอรี่ที่รับเข้ามาใหม่น้อยเกินไป จนทำให้ร่างกายเกิดการชะลอการเผาผลาญลงเพื่อให้ร่างกายยังมีพลังงานคงเหลือเพียงพอนั่นเอง
2.ไม่ทานอาหารที่มีไฟเบอร์ มีส่วนทำให้ ระบบเผาผลาญพัง
พูดถึงเรื่องระบบย่อยอาหารและการเผาผลาญ จะไม่พูดถึงพระเอกหลักของเราไปไม่ได้ หลายคนอาจจะทราบกันอยู่แล้วว่าไฟเบอร์หรือกากใยในผักและผลไม้นั้นช่วยเรื่องระบบย่อยอาหารเป็นอย่างมาก แต่ไม่เพียงเท่านั้นนะคะ ไฟเบอร์ที่เรารับประทานเข้าไปนอกจากจะช่วยให้อิ่มท้องนานแล้ว ยังช่วยเสริมความสามารถและเร่งอัตราในการเผาผลาญให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วย อีกทั้งยังช่วยรักษาระดับพลังงานให้คงที่ตลอดทั้งวัน ดังนั้นการไม่รับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์อยู่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ดีต่อระบบเผาผลาญเลย
3.ร่างกายรับโปรตีนไม่เพียงพอ มีส่วนทำให้ ระบบเผาผลาญพัง
จากงานวิจัยต่างๆ พบว่าโปรตีนมีส่วนช่วยในการดูแลอัตราการเผาผลาญให้ดียิ่งขึ้น เรียกได้ว่าแปรผันตรงกันเลยด้วยซ้ำ การรับประทานโปรตีนในแต่ละมื้ออาหารจึงมีความสำคัญมากกว่าที่คิด นอกจากนี้อย่างที่เราทราบกันว่าโปรตีนเป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย และแน่นอนว่ากล้ามเนื้อในร่างกายก็เป็นอีกส่วนสำคัญของ ระบบเผาผลาญ ดังนั้นนักโภชนาการจึงแนะนำว่าเราควรคำนวณปริมาณการทานโปรตีนในแต่ละมื้อให้ได้ปริมาณที่เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น มื้อเช้าอาจจะต้องได้รับโปรตีนในปริมาณที่เยอะหน่อย เพื่อที่ร่างกายจะได้นำพลังงานที่ได้ไปใช้ตลอดทั้งวันนั่นเองค่ะ
4.ทานคาร์โบไฮเดรตประเภทขัดสีมากเกินไป มีส่วนทำให้ ระบบเผาผลาญพัง
คาร์โบไฮเดรตจำเป็นต่อร่างกายอยู่แล้ว แต่คาร์โบไฮเดรตก็มีหลายประเภท! การทานคาร์โบไฮเดรตประเภทขัดสี เช่น ข้าวขาว ขนมปัง หรือน้ำตาลทรายขาวมากเกินไป ร่างกายจะทำการย่อยสารอาหารจำพวกนี้ได้อย่างรวดเร็วจนแทบจะไม่ได้ใช้พลังงานในการ เผาผลาญ เลยด้วยซ้ำ ส่งผลให้ไขมันก็ยังคงอยู่ในร่างกายเราตามปกติ นอกจากนี้อาหารประเภทนี้ยังมีไฟเบอร์ต่ำมากจนทำให้ไม่อิ่มท้อง ทำให้รู้สึกหิวอยู่ตลอดเวลา และอาจจะทำให้เรากินอาหารเข้าไปมากกว่าเดิมได้อีกด้วย
สังเกตได้เลยว่าจริงๆ แล้วนอกจากความเครียดและการพักผ่อนให้เพียงพอ การทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ในปริมาณที่เหมาะสมก็เป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุดสำหรับการดูแล ระบบเผาผลาญ ในร่างกาย รู้สาเหตุแล้วก็ต้องมาแก้กันให้ตรงจุดนะคะ พักเรื่องการลดน้ำหนักแบบผิดๆ กันไว้ก่อน ลองมาหาตัวช่วยดีๆ สำหรับดูแลและคงความสมดุลของระบบเผาผลาญ กันดีกว่าค่ะ
ธิชาร่าเฮิร์บ มิกซ์ 8 อุดมไปด้วยคุณค่าของสมุนไพรกว่า 8 ชนิด ที่เป็นส่วนประกอบและสารสกัดจากธรรมชาติ มีคุณสมบัติในการเผาผลาญไขมันสะสม ไขมันส่วนเกิน และเพิ่มอัตราการเผาผลาญ

ธิชาร่าเฮิร์บ มิกซ์ 8 เข้าใจปัญหาเรื่องระบบเผาผลาญพัง
อีกหนึ่งทางเลือกที่เราอยากให้คุณได้ลอง เพราะเป็นแคปซูลสมุนไพรล้วนๆ บรรจุสมุนไพรคุณภาพ กว่า 8 ชนิด ที่นอกจากจะเข้าไปช่วยดูแลเรื่องระบบเผาผลาญได้อย่างตรงจุดแล้ว ยังช่วยจัดการกับไขมันเก่าสะสมโดยไม่ทำให้ระบบภายในเสียสมดุล

เปลี่ยนหุ่น FAT เป็นหุ่น FIT ได้ไม่ยาก ด้วยธิชาร่าเฮิร์บ มิกซ์ 8 ความลับของสมุนไพรทั้ง 8 ชนิด ที่คุณต้องพิสูจน์ด้วยตัวเอง

ทำไมต้องเลือกเรา?
เพราะเราคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ เป็นอันดับแรกด้วย
- มาตรฐาน ผลิตจากโรงงานคุณภาพที่ได้มาตราฐาน GMP
- การตรวจสอบ ผ่านการตรวจสอบการอนุญาตจากสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา
- ไร้สารเคมี ปราศจากสารเคมีที่เป็นอันตราย
- ธรรมชาติ คัดสรรสมุนไพรคุณภาพทั้งสารสกัดและตำรับยาต่างๆ
- อัตราการซื้อซ้ำ 95% ผลตอบรับจากการซื้อซ้ำของลูกค้าอยู่ที่ 95% ซึ่งเป็นการพิสูจน์ผลลัพธ์ความพึงพอใจได้ดีที่สุด
- ความปลอดภัย คิดค้นสูตรและควบคุมการผลิตโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร

มากกว่า 95% พึงพอใจ
ธิชาร่าเฮิร์บ มิกซ์ 8 ได้รวบรวม ฟีดแบ็คจากผู้ใช้ผลิตภัณฑ์มากกว่า 95% ได้ข้อสรุปคือ “ทานแล้วรู้สึกได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ ทานแล้วไม่รู้สึกใจสั่น มึนงง หรือเอฟเฟคและยังไม่เคยได้รับรายงานจากผู้ใช้ผลิตภัณฑ์เรื่องผลข้างเคียง หรือโยโย้เอฟเฟคหลังหยุดทาน”

มั่นใจ ในผลิตภัณฑ์
ธิชาร่าเฮิร์บ มิกซ์ 8 คิดค้นสูตรและควบคุมการผลิตโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรโดยเฉพาะ การันตีด้วยคะแนนสูงสุดทางด้านเภสัชกรรมไทย และผดุงครรภ์ไทย, พท.บ. (เกียรตินิยม) และ วท.ม. (การแพทย์แผนไทยประยุกต์ จากคณะแพทยศาสตร์ สาขาวิชาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)

ผ่านการรับรอง
ธิชาร่าเฮิร์บ มิกซ์ 8 ผ่านการตรวจสอบการอนุญาต จากสํานักงานคณะกรรมการ อาหารและยา ระบวนการผลิต ได้มาตรฐาน GMP

ธิชาร่าเฮิร์บ มิกซ์ 8 มีส่วนประกอบและสารสกัดจากสมุนไพรกว่า 8 ชนิด ที่มีคุณค่า มีคุณประโยชน์รวมถึงสรรพคุณที่ปรากฎอยู่ในบัญชียาสมุนไพร รวมถึงมีปรากฎอยู่ในงานวิจัยอย่างแพร่หลาย

ส่วนประกอบต่อ 1 แคปซูลได้แก่
CURCUMIN POWDER (ผงขมิ้นชัน) 100 mg
SAFFLOWER POWDER (ผงคำฝอย) 50 mg
MULBERRY POWDER (ผงหม่อน) 50 mg
ROSELLE POWDER (ผงกระเจี๊ยบแดง) 50 mg
INDIAN GOOSEBERRY POWDER (ผงมะขามป้อม) 50 mg
TERMINALIA POWDER (ผงสมอไทย) 30 mg
GINGER EXTRACT สารสกัดจากขิง) 50 mg
BLACK PEPPER EXTRACT (สารสกัดจากพริกไทยดำ 20 mg

ขมิ้นชัน CURCUMIN
อีกหนึ่งสมุนไพรที่มีคุณค่าและโด่งดังเรื่องสรรพคุณที่รอบด้านนั่นก็คือ “ขมิ้นชัน” นั่นเอง จากงานวิจัยพบว่าขมิ้นชันไม่เพียงแต่ดูแลกระเพาะอาหาร ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อเพียงเท่านั้น แต่ยังมีคุณสมบัติที่ช่วยแก้ปัญหาลำไส้ในผู้ที่มีปัญหาด้านการขับถ่ายได้อีกด้วยโดยจะช่วยฟื้นฟูปลายประสาทของลำไส้ทำให้มีการบีบรัดตัวที่ดีขึ้นปรับให้การขับถ่ายเป็นปกติอีกทั้งยังมีสรรพคุณช่วยชะล้างผนังลำไส้ให้สะอาดช่วยขับสารพิษเร่งการเผาผลาญในร่างกายมีส่วนช่วยให้น้ำหนักตัวลดลงง่ายขึ้น และยังสามารถ ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลโดยรวมของร่างกายได้อีกเช่นเดียวกัน ข้อมูลอ้างอิง: opsmoac.go.th เรียบเรียงข้อมูลโดย: ธิชาร่าเฮิร์บ.com

ดอกคำฝอย SAFFLOWER
เป็นสมุนไพรที่เลื่องชื่อด้านการบำรุงร่างกาย โดยนอกจากจะช่วยบำรุงทั้งระบบประสาทและระบบโลหิตแล้ว ยังมีคุณสมบัติโดดเด่นในการลดไขมันในเส้นเลือดได้อีกด้วย จึงทั้งช่วยป้องกันการเกิดไขมันอุดตันในเส้นเลือดและทำให้เลือดไหลเวียนได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ดอกคำฝอยยังนิยมนำมารับประทานเพื่อช่วยลดน้ำหนักอย่างปลอดภัยได้อีกด้วยและเช่นเดียวกันยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านระบบเผาผลาญ รวมไปถึงเป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยให้ขับถ่ายสะดวกยิ่งขึ้นลดสิ่งสกปรกตกค้างในลำไส้ได้อย่างหมดจด ข้อมูลอ้างอิง: medthai.com เรียบเรียงข้อมูลโดย: ธิชาร่าเฮิร์บ.com

ใบหม่อน MULBERRY
ถือเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณเด่นทางด้านสุขภาพเน้นๆเพราะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลากหลาย ชนิด มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงผู้คนส่วนมากนิยมนำมารับประทานเพื่อช่วยลดระดับกลูโคสในเลือด ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง อีกทั้ง ยังมีคุณสมบัติช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลป้องกันการจับตัวของลิ่มเลือดรวมถึงลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันได้นั่นเอง ทั้งนี้ใบหม่อนยังมีสรรพคุณเป็นยาระบายอ่อนๆช่วยให้ระบบขับถ่ายกลับ มาเป็นปกติและยังช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกตกค้างในลำไส้ได้อีกด้วย ข้อมูลอ้างอิง: medthai.com เรียบเรียงข้อมูลโดย: ธิชาร่าเฮิร์บ.com

กระเจี๊ยบแดง ROSELLE
หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับ กระเจี๊ยบแดง เป็นอย่างดี แต่ทราบหรือไม่ว่าสมุนไพรชื่อแสนคุ้นชนิดนี้ ถูกนับว่าเป็นสมุนไพรที่มีคุณสมบัติโดดเด่นที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มยาลดไขมันในเส้นเลือดได้อย่างปลอดภัยอีกด้วย นอกจากนี้สรรพคุณทางยาของกระเจี๊ยบแดงยังมีอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นขับเมือกไขมันที่ตกค้างในลำไส้ ลดความดันโลหิต ลดความเหนียว ข้นของเลือดส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดทั่วร่างกายมีประสิทธิภาพ มากขึ้นช่วยให้ระบบเผาผลาญในร่างกายทำงานได้อย่างเต็มที่จึงมีส่วนช่วยให้การลดน้ำหนักเป็นไปได้ง่ายและปลอดภัยมากยิ่งขึ้นนั่นเอง ข้อมูลอ้างอิง: rspg.or.th เรียบเรียงข้อมูลโดย: ธิชาร่าเฮิร์บ.com

มะขามป้อม INDIAN GOOSEBERRY
เคยได้ยินสรรพคุณกันมามากมายว่ามะขามป้อมมีคุณสมบัติโดดเด่นด้านการขับเสมหะ แก้กระหายช่วย ให้ชุ่มคอทั้งยังเป็นสมุนไพรที่มีสาร ต่อต้านอนุมูลอิสระสูงที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง โดยเฉพาะวิตามินซีที่มีสูงกว่าส้ม และผลไม้อื่นๆ แต่นอกจากนี้ผลวิจัยทางด้านเภสัชวิทยากล่าวว่า มะขามป้อมยังมีคุณสมบัติเด่นในการช่วยลดน้ำตาล ลดไขมันในเลือดรวมถึงยังช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลไม่ให้สูงจนเป็นอันตรายต่อตับ หัวใจ และหลอดเลือดได้อีกเช่นเดียวกัน ข้อมูลอ้างอิง: medthai.com, sgethai.com เรียบเรียงข้อมูลโดย: ธิชาร่าเฮิร์บ.com

สมอไทย TERMINALIA
เป็นหนึ่งในสมุนไพรไทยที่ได้รับขนานนามว่าเป็น “ราชาแห่งยา” จัดอยู่ในกลุ่มตรีผลา มีสรรพคุณทางยาในการดูแลระบบย่อยอาหารได้อย่างดีเยี่ยมไม่ว่าจะเป็นอาการท้องผูกหรือท้องเดิน โดยจะเข้าไปปรับสมดุลในลำไส้ ชำระล้างเมือกไขมันที่เกาะบริเวณผนังลำไส้ ชำระล้างสารพิษในร่างกาย รวมถึงมีคุณสมบัติเป็นยาระบายอ่อนๆ โดยไม่ทำให้ปวดบิดหรือติดเชื้อ จึงถือว่าเป็นสมุนไพรที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการถ่ายยาก ต้องการยาระบาย และต้องการลดน้ำหนักโดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายเป็นอย่างยิ่ง ข้อมูลอ้างอิง: thaicrudedrug.com, disthai.com เรียบเรียงข้อมูลโดย: ธิชาร่าเฮิร์บ.com

ขิง GINGER
มาถึงสมุนไพรฤทธิ์อุ่นที่มีสรรพคุณทางยานานัปการ ขิงเป็นสมุนไพรที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งหมด ตั้งแต่ราก ต้น ใบ แก่นและผล ด้วย ความที่เป็นสมุนไพรฤทธิ์ร้อน ขิงจะช่วยให้ร่างกายอบอุ่นช่วยในการขับเหงื่อรวมถึงกระตุ้นระบบเผาผลาญในร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ระดับไขมันสะสมในร่างกายลดลงเพราะถูกดึงมาใช้เป็นพลังงานนั่นเอง นอกจากนี้ขิงยังมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการทำงานของลำไส้ทำให้ขับถ่ายได้ดียิ่งขึ้นผู้คนนิยมดื่มน้ำขิงเพื่อช่วยลดระดับไขมันและคอเลสเตอรอล โดยขิงจะช่วยดูดซึมคอเลสเตอรอลบริเวณลำไส้เพื่อให้ร่างกายกำจัดออกได้ง่ายขึ้นทางอุจจาระนั่นเอง ข้อมูลอ้างอิง: medthai.com เรียบเรียงข้อมูลโดย: ธิชาร่าเฮิร์บ.com

พริกไทยดำ BLACK PEPPER
เป็นอีกหนึ่งสมุนไพรที่อยู่คู่กับอาหารไทยมานาน มีรสเผ็ด ไม่มีพิษ โดยสรรพคุณหลักของพริกไทยเด่นเรื่องการดูแลระบบย่อยอาหารได้เป็นอย่างดี ช่วยขับความเย็นในกระเพาะอาหาร ลดอาการจุกเสียด แน่นเฟ้อ นอกจากนี้คุณสมบัติทางเภสัชวิทยาชี้ว่า พริกไทยยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญของร่างกายได้อีกด้วย โดยจะเพิ่มการหลังน้ำย่อยและการบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้ ทำให้อาหารที่รับประทานเข้าไปย่อยได้ดีและสามารถขับถ่ายออกได้อย่างง่ายดายนั่นเองแถมยังมีฤทธิ์ในการลดไขมันและคอเลสเตอรอลในเลือดได้อีกด้วย ข้อมูลอ้างอิง: fic.ifrpd.ku.ac.th เรียบเรียงข้อมูลโดย: ธิชาร่าเฮิร์บ.com

ผลิตภัณฑ์ ทานอย่างไร?
- ทานก่อนอาหาร 15-30 นาที 3 เวลา เช้า กลางวัน เย็น
- น้ำหนัก มากกว่า 70 กิโลกรัม ทานครั้งละ 3 แคปซูล
- น้ำหนัก น้อยกว่า 70 กิโลกรัม ทานครั้งละ 2 แคปซูล
สำหรับท่านที่ธาตุอ่อน หลังทานไปแล้วอาจมีอาการถ่ายท้องบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากสมุนไพรบางชนิด มีคุณสมบัติกระตุ้นการขับถ่ายแบบธรรมชาติ
เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ควรนอนพักผ่อนให้เพียงพอ 7-8 ชั่วโมง/วัน ใน 1 วัน ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ 2-3 ลิตร ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 15-30 นาที/วัน

วิธีลดไซต์ ที่เร่งด่วน
ควรทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ธิชาร่าเฮิร์บ มิกซ์ 8 ควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย และควบคุมอาหาร ควรรับประทานอย่างต่อเนื่อง 1-3 เดือน (โดยเฉลี่ยทาน 1 เดือนขึ้นไป ลดไซต์ 1-5 กิโลกรัม ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)

การดื่มน้ำ สำคัญ!
สมุนไพรมีฤทธิ์ร้อน ควรดื่มน้ำตามมากๆหรือในสัดส่วนที่เพียงพอต่อร่างกายในแต่ ละวัน สูตรการดื่มน้ำ คำนวนได้ดังนี้ค่ะ น้ำหนักตัว (กิโลกรัม) x 2.2 x 30 ÷2 จะได้เป็นปริมาณน้ำ หน่วยเป็นมิลลิลิตร ที่เราควรดื่มใน 1 วัน

ใครบ้างไม่ควรทาน? และคำแนะนำเพิ่มเติม ของผลิตภัณฑ์ธิชาร่าเฮิร์บ มิกซ์ 8

ธิชาร่าเฮิร์บ มิกซ์ 8 ดูแลและคงความสมดุลของระบบเผาผลาญ หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้หุ่นพัง!

ข้อมูลผลิตภัณฑ์และคำถามที่พบบ่อย
ผลิตภัณฑ์ของเรา ไม่ใช่ยา ธิชาร่าเฮิร์บ มิกซ์ 8 จดทะเบียนในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา
- ผลิตภัณฑ์ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) เลขที่ อย.11-1-19160-5-0027 กระบวนการผลิตได้มาตรฐาน GMP
- เพราะความเป็นธรรมชาติและความปลอดภัยคือ “จุดเด่นของเรา” ผลิตภัณฑ์ของเราไม่มีส่วนประกอบของสารเคมี หรือยา ผลิตจากสมุนไพรล้วนๆกว่า 8 ชนิด
- ทางแบรนด์ได้รับฟีดแบ็คจากผู้ใช้ผลิตภัณฑ์มากกว่า 95% “ทานแล้วรู้สึกได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ ทานแล้วไม่รู้สึกใจสั่น มึนงง หรือเอฟเฟคและยังไม่เคยได้รับรายงานจากผู้ใช้ผลิตภัณฑ์เรื่องผลข้างเคียงหรือโยโย้เอฟเฟคหลังหยุดทาน”
- ธิชาร่าเฮิร์บ มิกซ์ 8 คิดค้นสูตรและควบคุมการผลิตโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรโดยเฉพาะ การันตรีด้วยคะแนนสูงสุดทางด้านเภสัชกรรมไทยและผดุงครรภ์ไทย, พท.บ. (เกียรนิยม) และวท.ม. (การแพทย์แผนไทยประยุกต์)
- CURCUMIN POWDER (ผงขมิ้นชัน) 100 mg
- SAFFLOWER POWDER (ผงคำฝอย) 50 mg
- MULBERRY POWDER (ผงหม่อน) 50 mg
- ROSELLE POWDER (ผงกระเจี๊ยบแดง) 50 mg
- INDIAN GOOSEBERRY POWDER (ผงมะขามป้อม) 50 mg
- TERMINALIA POWDER (ผงสมอไทย) 30 mg
- GINGER EXTRACT สารสกัดจากขิง) 50 mg
- BLACK PEPPER EXTRACT (สารสกัดจากพริกไทยดำ 20 mg
ธิชาร่าเฮิร์บ มิกซ์ 8 (1 กระปุก บรรจุ 90 แคปซูล) ราคากระปุกละ 690 บาท จัดส่งฟรี ทางแบรนด์มีส่วนลดและโปรโมชั่นดีๆมากมาย สามารถติดตามได้จากช่องทางต่างๆ อาทิ Facebook, IG และไลน์ โดยคลิกที่ไอคอนมุมขวาด้านบนได้เลยนะคะ
ธิชาร่าเฮิร์บ มิกซ์ 8 อุดมไปด้วยคุณค่าของสมุนไพรกว่า 8 ชนิด ที่นอกจากจะเข้าไปช่วยดูแลเรื่องระบบเผาผลาญได้อย่างตรงจุดแล้วยังช่วยจัดการกับไขมันเก่าสะสมโดยไม่ทำให้ระบบภายในเสียสมดุล
สมุนไพรทั้ง 8 ชนิด มีคุณค่า มีคุณประโยชน์รวมถึงสรรพคุณที่ปรากฎอยู่ในบัญชียาสมุนไพร รวมถึงมีปรากฎอยู่ในงานวิจัยอย่างแพร่หลาย
ขมิ้นชัน
มีคุณสมบัติช่วยแก้ปัญหาลำไส้ในผู้ที่มีปัญหาด้านการขับถ่ายได้อีกด้วยโดยจะช่วยฟื้นฟูปลายประสาทของลำไส้ ทำให้มีการบีบรัดตัวที่ดีขึ้นปรับให้การขับถ่ายเป็นปกติอีกทั้งยังมีสรรพคุณช่วยชะล้างผนังลำไส้ให้สะอาดช่วยขับสารพิษเร่งการเผาผลาญในร่างกายมีส่วนช่วยให้น้ำหนักตัวลดลงง่ายขึ้น และยังสามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลโดยรวมของร่างกายได้อีกเช่นเดียวกัน (ข้อมูลอ้างอิง : opsmoac.go.th)
ดอกคำฝอย
ช่วยป้องกันการเกิดไขมันอุดตันในเส้นเลือดและทำให้เลือดไหลเวียนได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ดอกคำฝอยยังนิยมนำมารับประทานเพื่อช่วยลดน้ำหนักอย่างปลอดภัยได้อีกด้วยและเช่นเดียวกันยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านระบบเผาผลาญ รวมไปถึงเป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยให้ขับถ่ายสะดวกยิ่งขึ้นลดสิ่งสกปรกตกค้างในลำไส้ได้อย่างหมดจด (ข้อมูลอ้างอิง: medthai.com)
ใบหม่อน
ช่วยลดระดับกลูโคสในเลือด ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง อีกทั้งยังมีคุณสมบัติช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลป้องกันการจับตัวของลิ่มเลือดรวมถึงลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันได้นั่นเอง ทั้งนี้ใบหม่อนยังมีสรรพคุณเป็นยาระบายอ่อนๆช่วยให้ระบบขับถ่ายกลับมาเป็นปกติและยังช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกตกค้างในลำไส้ได้อีกด้วย (ข้อมูลอ้างอิง: medthai.com)
กระเจี๊ยบแดง
สรรพคุณทางยาของกระเจี๊ยบแดงมีอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นขับเมือกไขมันที่ตกค้างในลำไส้ ลดความดันโลหิต ลดความเหนียว ข้นของเลือดส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดทั่วร่างกายมีประสิทธิภาพมากขึ้นช่วยให้ระบบเผาผลาญในร่างกายทำงานได้อย่างเต็มที่จึงมีส่วนช่วยให้การลดน้ำหนักเป็นไปได้ง่ายและปลอดภัยมากยิ่งขึ้นนั่นเอง (ข้อมูลอ้างอิง: rspg.or.th)
มะขามป้อม
มีวิตามินซีที่มีสูงกว่าส้มและผลไม้อื่นๆ แต่นอกจากนี้ผลวิจัยทางด้านเภสัชวิทยากล่าวว่า มะขามป้อมยังมีคุณสมบัติเด่นในการช่วยลดน้ำตาล ลดไขมันในเลือดรวมถึงยังช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอล ไม่ให้สูงจนเป็นอันตรายต่อตับ หัวใจ และหลอดเลือดได้อีกเช่นเดียวกัน (ข้อมูลอ้างอิง: medthai.com, sgethai.com)
สมอไทย
มีสรรพคุณทางยามากมายไม่ว่าจะเป็นการแก้อาการท้องผูกหรือท้องเดิน โดยจะเข้าไปปรับสมดุลในลำไส้ ชำระล้างเมือกไขมันที่เกาะบริเวณผนังลำไส้ ชำระล้างสารพิษในร่างกาย รวมถึงมีคุณสมบัติเป็นยาระบายอ่อนๆ โดยไม่ทำให้ปวดบิดหรือติดเชื้อ จึงถือว่าเป็นสมุนไพรที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการถ่ายยาก ต้องการยาระบายและต้องการลดน้ำหนักโดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายเป็นอย่างยิ่ง เป็นหนึ่งในสมุนไพรไทยที่ได้รับขนานนามว่าเป็น “ราชาแห่งยา” จัดอยู่ในกลุ่มตรีผลา มีสรรพคุณทางยาในการดูแลระบบย่อยอาหารได้อย่างดีเยี่ยม (ข้อมูลอ้างอิง: thaicrudedrug.com, disthai.com)
ขิง
เป็นสมุนไพรฤทธิ์อุ่นที่มีสรรพคุณทางยานานัปการ ขิงเป็นสมุนไพรที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งหมดตั้งแต่ราก ต้น ใบ แก่นและผล ด้วย ความที่เป็นสมุนไพรฤทธิ์ร้อนขิงจะช่วยให้ร่างกายอบอุ่นช่วยในการขับเหงื่อรวมถึงกระตุ้นระบบเผาผลาญ ในร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ระดับ ไขมันสะสมในร่างกายลดลงเพราะถูกดึงมาใช้เป็นพลังงานนั่นเองนอก จากนี้ขิงยังมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ทำให้ขับถ่ายได้ ดียิ่งขึ้นผู้คนนิยมดื่มน้ำขิงเพื่อช่วยลดระดับไขมันและคอเลสเตอรอล โดยขิงจะช่วยดูดซึมคอเลสเตอรอลบริเวณลำไส้ เพื่อให้ร่างกายกำจัดออกได้ง่ายขึ้นทางอุจจาระนั่นเอง (ข้อมูลอ้างอิง: medthai.com)
พริกไทยดำ
เป็นอีกหนึ่งสมุนไพรที่อยู่คู่กับอาหารไทยมานาน มีรสเผ็ด ไม่มีพิษ โดยสรรพคุณหลักของพริกไทยเด่นเรื่องการดูแลระบบย่อยอาหารได้เป็นอย่างดี ช่วยขับความเย็นในกระเพาะอาหาร ลดอาการจุกเสียด แน่นเฟ้อ นอกจากนี้คุณสมบัติทางเภสัชวิทยาชี้ว่า พริกไทยยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญของร่างกายได้อีกด้วย โดยจะเพิ่มการหลังน้ำย่อยและการบีบตัวของกระเพาะอาหารและ ลำไส้ ทำให้อาหารที่รับประทานเข้าไปย่อยได้ดีและสามารถขับถ่ายออกได้ อย่างง่ายดายนั่นเอง แถมยังมีฤทธิ์ในการลดไขมันและคอเลสเตอรอลในเลือดได้อีกด้วย (ข้อมูลอ้างอิง: fic.ifrpd.ku.ac.th)
คำแนะนำ
- ควรศึกษาหาข้อมูลส่วนประกอบและสารสกัดทั้ง 8 ชนิด ของผลิตภัณฑ์ก่อนทาน
- ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารธิชาร่าเฮิร์บ มิกซ์ 8 ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค
- กรณีทานแล้วเกิดอาการแพ้หรือมีผลข้างเคียงควรหยุดทานทันที และพบแพทย์
- ควรรับประทานอาหารหลายหลายครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสมเป็นประจำ และออกกำลังกายเพื่อร่างกายที่แข็งแรง
ธิชาร่าเฮิร์บ มิกซ์ 8 เหมาะกับผู้ที่
- ต้องการลดน้ำหนัก ลองมาหลายวิธีแต่น้ำหนักกลับไม่ลดลงสักที หรือลงไปสักระยะน้ำหนักกลับคงที่ไม่ลงต่อ
- ผู้ที่ต้องการดูแลรูปร่างและมีน้ำหนักตัวเกินค่ามาตรฐาน BMI และมีไขมันสะสมตามส่วนต่างๆของร่างกาย
- ผู้ที่ชอบทานบุฟเฟ่ต์ ปิ้งย่าง ของทอด ของมัน ของหวาน หรืออาหารที่มีไขมัน คอเลสเตอรอลสูง
- ผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพ มีความกังวลเรื่องระดับหรือค่าของคอเลสเตอรอล ความดันโลหิต ไขมันในเลือด ระดับน้ำตาลในเลือด รวมถึงผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน โรคอ้วนหรือเป็นโรคเบาหวาน โรคอ้วนอยู่แล้ว
- อายุมากขึ้นร่างกายเผาผลาญได้ช้าลง ระบบ Metabolism ของคนเราจะค่อยๆเสื่อมตามธรรมชาติลง 5% ทุกๆ 10 ปี และยิ่งเมื่ออายุเข้าเลข 4 ยิ่งต้องดูแลตัวเอง
เชื่อธรรมชาติ เชื่อธิชาร่าเฮิร์บ ความลับของสมุนไพรทั้ง 8 ชนิด ที่คุณต้องพิสูจน์ด้วยตัวเอง
ทานอย่างไร?
- ทานก่อนอาหาร 15-30 นาที 3 เวลา เช้า กลางวัน เย็น
- น้ำหนัก มากกว่า 70 กิโลกรัม ทานครั้งละ 3 แคปซูล
- น้ำหนัก น้อยกว่า 70 กิโลกรัม ทานครั้งละ 2 แคปซูล
สำหรับท่านที่ธาตุอ่อน หลังทานไปแล้วอาจมีอาการถ่ายท้องบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากสมุนไพรบางชนิด มีคุณสมบัติกระตุ้นการขับถ่ายแบบธรรมชาติ
เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ควรนอนพักผ่อนให้เพียงพอ 7-8 ชั่วโมง/วัน ใน 1 วัน ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ 2-3 ลิตร ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 15-30 นาที/วัน
ทานนานแค่ไหน?
- สามารถทานได้ทุกวันตามที่ต้องการ เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดควรทานต่อเนื่อง 1 เดือนขึ้นไป จะทานเพื่อดูแลสุขภาพ ดูแลเรื่องระบบเผาผลาญหรือจัดการกับไขมันก็ตอบโจทย์ค่ะ
- 1 เดือน 1-5 กิโล
- 2 เดือน 5 – 10 กิโล
- 3 เดือน 10 – 15 กิโล
- 4 เดือน 20 – 25 กิโล
- และ 5 เดือนขึ้นไป 25 กิโลขึ้นไป
เนื่องจากเป็นสมุนไพรล้วน 100% ผลลัพธ์ที่ได้จะต้องอาศัยระยะเวลาทานอย่างต่อเนื่อง และทานอย่างถูกต้องค่ะ สำหรับผู้ที่ลดยาก หรือเป็นโรคอ้วนกรรมพันธุ์ควรออกกำลังกายและควบคุมอาหารที่ทานด้วยค่ะ พยายามเลี่ยงอาการที่มี น้ำตาล โซเดียม แป้งขัดสี ไขมัน และคอเลสเตอรอลสูง ไม่ควรทานมากเกินไปค่ะ
(ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)
ธิชาร่าเฮิร์บ มิกซ์ 8 ผลิตจากสมุนไพรจากพืชล้วนๆ 100% เมื่อทานแล้วได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการแล้ว สามารถทานต่อเนื่องได้ค่ะ แต่ควรลดปริมาณการทาน จากปกติทานวันละ 3 ครั้ง เช้า กลางวัน เย็น ก่อนมื้ออาหาร ก็ปรับมาทาน 2 ครั้ง เช้ากับเย็นแทนได้เลยค่ะ หรือทานแค่ครั้งเดียว ก่อนมื้ออาหารเช้าก็ได้ค่ะ
- เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ไม่ควรทาน (สามารถทานได้ตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไป)
- คุณแม่ตั้งครรภ์รวมถึงคุณแม่ที่อยู่ระหว่างการให้นมบุตรไม่ควรทาน (หยุดให้นมแล้วถึงเริ่มทานได้)
- ผู้ป่วยมะเร็งทุกระยะ รวมถึงผู้ที่มีโรคประจำตัวระยะรุนแรง (ผู้ที่มีโรคประจำตัว ทั่วไป เพื่อให้แน่ใจควรปรึกษาแพทย์ก่อนทาน)
- ควรศึกษาหาข้อมูลส่วนประกอบและสารสกัดทั้ง 8 ชนิด ของผลิตภัณฑ์ก่อนทาน
- ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารธิชาร่า เฮิร์บ มิกซ์ 8 ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค
- กรณีทานแล้วเกิดอาการแพ้หรือมีผลข้างเคียงควรหยุดทานทันทีและพบแพทย์
- ควรรับประทานอาหารหลากหลายครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสมเป็นประจำและออกกำลังกายเพื่อร่างกายที่แข็งแรง
กรณีที่มีคำถาม ข้อสงสัย หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถปรึกษาทางแชทไลน์ @ticharaherb ได้เลยค่ะทางแอดมินจะรวมคำถามหรือข้อสงสัยต่างๆเพื่อสอบถาม กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรและแจ้งกลับให้ท่านทราบค่ะ
ธิชาร่าเฮิร์บ เราให้ความสำคัญเรื่องความเป็นธรรมชาติ และความปลอดภัย เป็นอันดับแรกค่ะ
เพราะความเป็นธรรมชาติและความปลอดภัย คือจุดเด่นของเรา ผลิตภัณฑ์ของเราไม่มีส่วนประกอบของสารเคมี หรือยา ผลิตจากสมุนไพรล้วนๆกว่า 8 ชนิด
ทางแบรนด์ได้รับฟีดแบ็คจากผู้ใช้ผลิตภัณฑ์มากกว่า 95% “ทานแล้วรู้สึกได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ ทานแล้วไม่รู้สึกใจสั่น มึนงง หรือเอฟเฟคและยังไม่เคยได้รับรายงานจากผู้ใช้ผลิตภัณฑ์เรื่องผลข้างเคียงหรือโยโย้เอฟเฟคหลังหยุดทาน”
- ควรทานผลิตภัณฑ์ให้ถูกต้อง ทานครบตามคำแนะนำการทาน (ลูกค้ากว่า 5% ทานผลิตภัณฑ์ไม่ครบ ไม่ต่อเนื่อง ผลลัพธ์ที่ได้จึงไม่เป็นไปตามที่ต้องการค่ะ)
- ควรทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารธิชาร่าเฮิร์บ มิกซ์ 8 ควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย และควบคุมอาหาร ลดแป้ง น้ำตาล ไขมันลง
- ควรรับประทานอย่างต่อเนื่อง 1-3 เดือน (โดยเฉลี่ยทาน 1 เดือนขึ้นไป 1-5 กิโลกรัม ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)
- เนื่องจากสมุนไพรมีฤทธิ์ร้อน ควรดื่มน้ำในสัดส่วนที่เพียงพอต่อร่างกายในแต่ละวัน 2-3 ลิตรต่อวัน
- ควรนอนพักผ่อนไม่เกิน 4 ทุ่ม นอน 7-8 ชั่วโมงต่อวัน และ ใน 1 วันควรดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกาย 2-3 ลิตร ยิ่งออกกำลังกายยิ่งดีค่ะ
ควรหยุดทานทันที และเข้ารับการรักษา ขอคำปรึกษาจากแพทย์ กรณีที่แพทย์วินิจฉัยว่ามีผลสืบเนื่องมากจากการทานอาหารเสริม ธิชาร่าเฮิร์บ มิกซ์ 8 ทางแบรนด์ยินดีคืนเงินให้คุณลูกค้าเต็มจำนวน โดยคุณลูกค้าทำการจัดส่งผลิตภัณฑ์คืนให้กับทางแบรนด์ (ทางแบรนด์ออกค่าจัดส่งให้ค่ะ) และผลิตภัณฑ์จะต้องคงเหลือไม่น้อยกว่า 70% หลังจากเปิดทาน (ปกติการทานยาหรืออาหารเสริมใดๆเข้าไปแล้วเกิดอาการแพ้หรือมีผลข้างเคียงจะมีการแสดงอาการหรือผลข้างเคียงทันที หรือภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากทานค่ะ)
สามารถทานควบคู่กับยาที่แพทย์สั่งจ่ายได้ แต่เพื่อให้แน่ใจควรปรึกษาแพทย์ก่อนทาน
ควรศึกษาหาข้อมูลส่วนประกอบและสารสกัดทั้ง 8 ชนิด ของผลิตภัณฑ์ก่อนทาน เพราะส่วนประกอบและสารสกัดของสมุนไพรบางชนิดอาจส่งผลต่อยาที่แพทย์ใช้รักษาหรือโรคประจำตัวของท่านค่ะ